10 ที่เที่ยวสุราษฏร์ธานี
10 ที่เที่ยวสุราษฏร์ธานี
1. เขาสก หรือ เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)
เขื่อนรัชชประภาหรือที่เรารู้จักกันในชื่อของเขื่อนเชี่ยวหลาน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่สุดในจังหวัดสุราษฏร์ธานี เป็นเขื่อนที่กินอาณาบริเวณกว้างขวางถึง 500 ไร่ มีทัศนียภาพสวยงาม ไปด้วยภูเขาและชะง่อนผาหินปูนที่โอบล้อมอยู่โดยรอบ ไฮไลท์เด็ดของเขื่อนเชี่ยวหลานนั้นก็คือ หินสามเกลอ หรือที่รู้จักกันในนามของกุ้ยหลินเมืองไทยและกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูฝูงปลาและปะการังไปจนถึงการพายเรือคายัคก็เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมไม่น้อย นอกจากนี้ที่เขื่อนเชี่ยวหลานยังมีที่พักเก๋ๆ กลางเขื่อนเอาไว้ให้คุณนอนเอกเขนกและทอดอารมณ์ดื่มดำความสวยงามของที่นี่ ได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าหากใครได้แวะเข้ามาที่นี่จะต้องร้องว้าว ไม่อยากกลับออกมาสู่โลกภายนอกเลยทีเดียว
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวันตั้งแต่ 9.00 – 16.00 น.
ค่าเข้า : มีหลายระดับราคาตั้งแต่
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวันตั้งแต่ 8.00 – 16.00 น.
ค่าเข้า : คนไทย 10 บาทต่างชาติ 30 บาท
3. เกาะนางยวน
เมื่อมาถึงจังหวัดสุราษฏร์ธานี หากไม่ได้ไปเที่ยวทะเลเลยก็ดูเหมือนจะยังมาไม่ถึง เกาะนางยวนนั้นเป็นเกาะเล็กๆอยู่ใกล้ๆ กับเขาเต่าที่ความสวยงามของวิวนั้นไม่เล็กเหมือนอาณาบริเวณโดยรอบเกาะเลย ความพิเศษของเกาะนางยวนก็คือ จะเป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะที่ถูกเชื่อมโยงถึงกันด้วยสันทรายตรงกลางที่เป็นเอกลักษณ์ 1 เดียวในโลก เมื่อมองจากจุดชมวิวลงไปด้านล่างคุณจะได้เห็นสุดยอดวิวที่มีความสวยงามที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 เกาะที่สวยที่สุดติดอันดับโลกเลยทีเดียว นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าภาคภูมิใจและไม่ควรพลาดเลยจริงๆ
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
ค่าเข้า : มีค่าโดยสารเรือจากท่าเรือเกาะเต่าคนละ 350 บาท
4. สวนโมกข์พลาราม
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจ ของพุทธศาสนิกชน ที่คุณไม่ควรพลาด สวนโมกพลาราม หรือสวกโมกข์นั้นถูกก่อตั้ง โดยท่านพุทธทาสภิกขุ พระอาจารย์ที่มีความสำคัญมากที่สุดองค์หนี่ง ในวงการพระพุทธศาสนา ภายในสวนนั้น จะโอบล้อมไปด้วยแมกไม้ร่มรื่น ให้ความรู้สึกเย็นสบาย อีกทั้งยังมีกิจกรรม ปฏิบัติธรรมไว้รองรับสำหรับผู้ที่มีใจรัก และ ศรัทธาในพุทธศาสนา สำหรับจิตใจที่เหนื่อยล้าจากความทุกข์และการทำงานในปัจจุบัน เมื่อได้มาเยี่ยมชมและพูดคุยสนทนาธรรมกับเหล่าผู้ปฏิบัติธรรมแล้วก็จะได้รับข้อคิดและแรงใจดีๆ กลับไปพร้อมลุยกับทุกอุปสรรคที่ต้องเผชิญ
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวันตั้งแต่ 6.00 – 18.00 น.
ค่าเข้า : ฟรี
5. อุทยานธรรมเขานาในหลวง
อีกหนึ่งในแลนด์มาร์ค สำคัญที่พลาดไม่ได้ เมื่อมาท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฏร์ธานี เป็นพุทธสถานที่ได้รับความนิยม ทั้งในหมู่นักท่องเที่ยว และชาวพื้นที่ ด้วยความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใครของสถาปัตยกรรม เช่น ซุ้มประตูพุทธวดี 9 ยอด ที่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและตก แสงสีทองเรืองรองรองนั้น จะลอดผ่านซุ้มประตูโค้งมนออกมาอย่างสวยงามประน่าทับใจ หรือเจดีย์ลอยฟ้าที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าก็ดูสวยแปลกตาน่ามองไม่แพ้กัน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวันตั้งแต่ 6.30 – 18.30 น.
ค่าเข้า : ฟรี
6. ตลาดน้ำประชารัฐ บางใบไม้
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในจังหวัดสุราษฏร์ธานี ตลาดน้ำประชารัฐนั้นเกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านบางใบไม้ ซึ่งเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และความน่าสนใจไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เลย คุณสามารถเดินเล่นชิลๆ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศคึกคักของชาวบ้าน แวะชิมอาหารพื้นบ้านและช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ของชุมชนแห่งนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมความงดงามและเงียบสงบของแม่น้ำร้อยสาย แม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชุมชนละแวกนี้ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่เราอยากให้คุณแวะมาเยี่ยมเยียน
เวลาเปิด – ปิด : อาทิตย์ 9.00 – 15.00 น.
ค่าเข้า : ฟรี
7. ถ้ำน้ำตกผาแดง
ถ้ำน้ำตกผาแดงนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ความน่าทึ่งของของธรรมชาติแห่งนี้ที่ภายในถ้ำเราจะได้พบหินงอกหินย้อยมหัศจรรย์ธรรมชาติที่มีความสวยงามแปลกตา เมื่อเราเดินลอดถ้ำเข้าไปจะพบกับน้ำตกผาแดงที่มีสวยสะดุดตา ราวกับหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่งที่เราไม่เคยพานพบมาก่อนเลย ไฮไลท์เด็ดๆ ของถ้ำน้ำตกผาแดงก็คือ หินงอกหินย้อยสีแดงขนาดใหญ่ลักษณะโค้งมน มีรูปร่างคล้ายผ้าม่านที่คุณไม่ควรพลาด เรียกได้ว่าน้ำตกถ้ำผาแดงนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่คุณต้องตกใจจนอ้าปากค้างกับความสวยงามของธรรมชาติเลยทีเดียว
เวลาเปิด – ปิด : เปิดเฉพาะวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 15.30 น.
ค่าเข้า : ตามแต่ตกลงกับเจ้าหน้าที่
8. สะพานแขวน วัดเขาพัง
สะพานแขวนเขาพัง หรือสะพานเขาเทพพิทักษ์เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เมื่อมาถึงเขื่อนเชี่ยวหลานแล้วคุณต้องไม่พลาด เป็นสะพานแขวนขนาดใหญ่ ทอดตัวยาวกว่า 120 เมตร ตัดข้ามคลองสะแพงและหมู่แมกไม้น้อยใหญ่ที่ร่มรื่นและเขียวขจี บรรยากาศโดยรอบนั้นเป็นทิวเขาเทพพิทักษ์ ที่เมื่อเรามองลอดผ่านสะพานแขวนแล้วจะเห็นเป็นรูปร่างคล้ายหัวใจ สวยงามแปลกตามาก นับเป็นอีกจุดที่ควรต้องมาถ่ายรูปเก็บความประทับใจ เอาไว้โพสต์ลงไอจีเก๋ๆ ให้เพื่อนทุกคนอิจฉาจนตาร้อน
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
ค่าเข้า : ฟรี
9. เกาะเต่า
เกาะเต่า นั้นเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ ของจังหวัดสุราษฏร์ธานี เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว ล่องลอยอยู่ใจกลางทะเล มีชายหาดมากถึง 11 แห่งไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยว ทุกไลฟ์สไตล์เช่น หาดทรายรี เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการกินดื่ม พบปะสังสรรค์ หาดฟรีด้อม เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวสายชิลที่ต้องการความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว เกาะเต่านั้นเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่ามีโลกใต้น้ำที่สวยที่สุดในประเทศไทย เหมาะกับกิจกรรม ดำน้ำทั้งลึกและตื้น มีสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ และปะการังสวยงามสมบูรณ์แบบมากที่สุด ที่ใครเห็นเป็นต้องทึ่ง
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน
ค่าเข้า : มีค่าโดยสารเรือข้ามเกาะหลายระดับราคา เริ่มตั้งแต่ 450 – 600 บาท
10. เกาะพงัน
ไฮไลท์เด็ดที่เราเก็บไว้ท้ายสุด สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสุดน่าทึ่งในจังหวัดสุราษฏร์ธานีก็คือ เกาะพะงัน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ติดอันดับโลกแห่งนี้ ด้วยความห่างไกลของเกาะที่ต้องใช้เวลาเดินทางนานนับชั่วโมง ทำให้เกาะพงันนั้นยังมีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ และเงียบสงบเพราะแทบไม่ได้รับการรบกวนจากมนุษย์มากนัก ไฮไลท์เด็ดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ดั้นด้นเดินทางมาถึง เกาะพะงัน แห่งนี้ก็คือการเข้าร่วมฟูลมูนปาร์ตี้ โดยฟูลมูนปาร์ตี้นั้น จะจัดขึ้นเดือนละ 2 ครั้งในคืนพระจันทร์เต็มดวง โดยชาวบ้านจะเนรมิตรให้หาดริ้น เป็นสถานที่แฮงเอ้าท์ กิน ดื่มสุดมันที่เราจะได้พบปะสังสรรค์กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมน่าสนใจ ที่จะเปิดโลกทัศน์ของคุณให้กว้างไกลมากขึ้นกว่าเดิม
เวลาเปิด – ปิด : แล้วแต่กำหนดการแต่ละเดือน
ค่าเข้า : มีค่าโดยสารเรือหลายระดับราคา ขึ้นอยู่กับระยะทางตั้งแต่ 120 – 960 บาท
และนี่ก็คือ 10 ที่เที่ยวในสุราษฏร์ธานีที่เราเอามาฝากกัน แต่ละที่ทั้งสวย ทั้งน่าทึ่ง ถ้าใครไปสุราษฎร์ธานีก็อย่าลืมจองที่พักกับ Traveloka ด้วยล่ะ เพราะนอกจากที่เพื่อนๆ จะสามารถจ่ายค่าที่พักผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสได้อย่างสะดวกสบายแล้ว Traveloka ยังไม่บวกค่าธรรมเนียมด้วย เรียกได้ว่าทั้งสะดวก ทั้งประหยัด มีเงินเหลือๆ เอาไว้ใช้สำหรับการท่องเที่ยวอีกด้วย