นักกีฬาที่ทำเงินสูงสุด
นักกีฬาที่ทำเงินสูงสุด
ในช่วงปีที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้ว่าจะทำอะไรก็ติดขัดไปหมด ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน กระทบกระเทือนไปจนถึงวงการกีฬา ถึงแม้ว่าโลกจะประสบปัญหาทางการเงินเท่าไหร่ก็คงไม่เป็นปัญหากับคนเหล่านี้ เพราะนี่คือ 10 นักกีฬาที่ทำเงินสูงที่สุดในโลกหลัก 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประจำปี 2021 โดยเฉพาะอับดันหนึ่งหน้าใหม่ที่ใช้ปาก (และร่างกาย) พารวยอย่างแท้จริง
- คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ (Conor McGregor)
นักมวย จาก UFC ที่ปาดหน้านักกีฬาคนอื่นๆ ด้วยการทำสถิติรายได้สูงสุด 180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายธุรกิจนอกสังเวียนอย่างหุ้น Proper No. Twelve ที่เป็นแบรนด์วิสกี้ของเจ้าตัวไปได้กว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอีกส่วนหนึ่งคือรางวัลจากการขึ้นชกรีแมตช์ระหว่างดัสติน พัวริเยร์ (Dustin Poirier) ในศึก UFC 257 ที่ผ่านมา แม้เจ้าตัวจะแพ้แต่ก็กวาดเงินไปสูงถึง 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว
- ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi)
นักฟุตบอลจากสโมสรบาร์เซโลนา ทำรายได้ทั้งหมด 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ส่วนใหญ่มาจากค้าแข้งในสนามกว่า 97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอีก 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาจากสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง adidas
- คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo)
นักฟุตบอลจากสโมสรยูเวนตุส ทำรายได้ทั้งหมด 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามหลังเมสซีไปติดๆ แบ่งเป็นรายได้จากในสนาม 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และที่เหลือมาจากสปอนเซอร์ Nike และธุรกิจส่วนตัวในนาม CR7
- แดค เพรสคอตต์ (Dak Prescott)
ควอเตอร์แบ็คจากทีมดัลลัส คาวบอยส์ ทำรายสูงสุดของนักกีฬา NFL ที่ 107.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาจากค่าเซ็นสัญญากว่า 66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- เลอบรอน เจมส์ (LeBron James)
นักบาสเกตบอลจากทีมลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส กวาดรายได้สูงสุดของนักกีฬา NBA ทั้งหมด 96.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็นรายได้จากการแข่งขันกีฬา 31.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่วนที่เหลือมาจากการเป็นนักแสดงให้ภาพยนตร์ Space Jam: A New Legacy รวมถึงหุ้นส่วนในธุรกิจเกี่ยวกับกีฬา อาทิ สโมสรลิเวอร์พูล
- เนย์มาร์ (Neymar)
นักฟุตบอลจากสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำรายได้ทั้งหมด 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเขาทำรายได้ในสนาม 76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่วนที่เหลือมาจากการเป็นแบรนด์แอสบาสเดอร์คนใหม่ให้กับ Puma รวมถึงการนำภาพของเขาไปสร้างสกินตัวละครภายในเกม Fortnite อีกด้วย
- โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer)
นักเทนนิสที่เคยติดอันดับหนึ่งของนักกีฬาที่ทำเงินสูงสุดเมื่อปี 2020 ตกมาอยู่อันดับ 7 เพราะอาการบาดเจ็บหัวเข่าทำให้ไม่ได้ลงแข่งตลอดทั้งปี แต่ก็ยังสามารถทำรายได้ 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากสปอนเซอร์อย่าง Rolex, Uniqlo ไปจนถึงคอลเลกชันรองเท้าร่วมกับ On Running
- ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton)
นักแข่งรถ F1 ที่กวายรายได้รวมของปีนี้ไปได้ทั้งหมด 82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการแข่งขัน F1 ตลอดทั้งปี 2020 และอีกส่วนมาจากสปอนเซอร์อื่นๆ อย่าง Tommy Hilfiger และ Puma
- ทอม เบรดี (Tom Brady)
อีกหนึ่งควอเตอร์แบ็คจากแทมปาเบย์ ไฮเวย์ เขาเป็นนักกีฬาที่มีอายุมากถึง 43 ปีที่ยังลงเล่นอยู่ แต่อย่างที่รู้กันว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข เพราะเขาเพิ่งคว้าแหวนแชมป์ซูเปอร์โบวล์วงที่ 7 มาครองได้แบบสดๆ ร้อนๆ พร้อมกวาดรายได้ตลอดทั้งปีกว่า 76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงรายได้จากธุรกิจส่วนตัวอื่นๆ ของเขาด้วย
- เควิน ดูแรนต์ (Kevin Durant)
นักบาสเกตบอลจากทีมบรูคลิน เน็ตส์ กลับมาจากอาการบาดเจ็บในซีซัน 2019-20 พร้อมด้วยตำแหน่งอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สั้นเรื่อง Two Distant Strangers ที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์ไปหมาดๆ รวมถึงว่างจากการเล่นบาสก็ไปลงหุ้นไปอีกมากมาย ทำเอารายได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว
นักกีฬาที่ทำเงินสูงที่สุดในโลกหลัก 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประจำปี 2021
โดยเฉพาะอับดันหนึ่งหน้าใหม่ที่ใช้ปาก (และร่างกาย) พารวยอย่างแท้จริง
- คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ (Conor McGregor)
นักมวยจาก UFC ที่ปาดหน้านักกีฬาคนอื่นๆ ด้วยการทำสถิติรายได้สูงสุด 180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายธุรกิจนอกสังเวียนอย่างหุ้น Proper No. Twelve ที่เป็นแบรนด์วิสกี้ของเจ้าตัวไปได้กว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอีกส่วนหนึ่งคือรางวัลจากการขึ้นชกรีแมตช์ระหว่างดัสติน พัวริเยร์ (Dustin Poirier) ในศึก UFC 257 ที่ผ่านมา แม้เจ้าตัวจะแพ้แต่ก็กวาดเงินไปสูงถึง 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว
- ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi)
นักฟุตบอลจากสโมสรบาร์เซโลนา ทำรายได้ทั้งหมด 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ส่วนใหญ่มาจากค้าแข้งในสนามกว่า 97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอีก 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาจากสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง adidas
- คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo)
นักฟุตบอลจากสโมสรยูเวนตุส ทำรายได้ทั้งหมด 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามหลังเมสซีไปติดๆ แบ่งเป็นรายได้จากในสนาม 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และที่เหลือมาจากสปอนเซอร์ Nike และธุรกิจส่วนตัวในนาม CR7
- แดค เพรสคอตต์ (Dak Prescott)
ควอเตอร์แบ็คจากทีมดัลลัส คาวบอยส์ ทำรายสูงสุดของนักกีฬา NFL ที่ 107.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาจากค่าเซ็นสัญญากว่า 66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- เลอบรอน เจมส์ (LeBron James)
นักบาสเกตบอลจากทีมลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส กวาดรายได้สูงสุดของนักกีฬา NBA ทั้งหมด 96.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็นรายได้จากการแข่งขันกีฬา 31.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่วนที่เหลือมาจากการเป็นนักแสดงให้ภาพยนตร์ Space Jam: A New Legacy รวมถึงหุ้นส่วนในธุรกิจเกี่ยวกับกีฬา อาทิ สโมสรลิเวอร์พูล
- เนย์มาร์ (Neymar)
นักฟุตบอลจากสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทำรายได้ทั้งหมด 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเขาทำรายได้ในสนาม 76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่วนที่เหลือมาจากการเป็นแบรนด์แอสบาสเดอร์คนใหม่ให้กับ Puma รวมถึงการนำภาพของเขาไปสร้างสกินตัวละครภายในเกม Fortnite อีกด้วย
- โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (Roger Federer)
นักเทนนิสที่เคยติดอันดับหนึ่งของนักกีฬาที่ทำเงินสูงสุดเมื่อปี 2020 ตกมาอยู่อันดับ 7 เพราะอาการบาดเจ็บหัวเข่าทำให้ไม่ได้ลงแข่งตลอดทั้งปี แต่ก็ยังสามารถทำรายได้ 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากสปอนเซอร์อย่าง Rolex, Uniqlo ไปจนถึงคอลเลกชันรองเท้าร่วมกับ On Running
- ลูอิส แฮมิลตัน (Lewis Hamilton)
นักแข่งรถ F1 ที่กวายรายได้รวมของปีนี้ไปได้ทั้งหมด 82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการแข่งขัน F1 ตลอดทั้งปี 2020 และอีกส่วนมาจากสปอนเซอร์อื่นๆ อย่าง Tommy Hilfiger และ Puma
- ทอม เบรดี (Tom Brady)
อีกหนึ่งควอเตอร์แบ็คจากแทมปาเบย์ ไฮเวย์ เขาเป็นนักกีฬาที่มีอายุมากถึง 43 ปีที่ยังลงเล่นอยู่ แต่อย่างที่รู้กันว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข เพราะเขาเพิ่งคว้าแหวนแชมป์ซูเปอร์โบวล์วงที่ 7 มาครองได้แบบสดๆ ร้อนๆ พร้อมกวาดรายได้ตลอดทั้งปีกว่า 76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงรายได้จากธุรกิจส่วนตัวอื่นๆ ของเขาด้วย
- เควิน ดูแรนต์ (Kevin Durant)
นักบาสเกตบอลจากทีมบรูคลิน เน็ตส์ กลับมาจากอาการบาดเจ็บในซีซัน 2019-20 พร้อมด้วยตำแหน่งอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สั้นเรื่อง Two Distant Strangers ที่เพิ่งคว้ารางวัลออสการ์ไปหมาดๆ รวมถึงว่างจากการเล่นบาสก็ไปลงหุ้นไปอีกมากมาย ทำเอารายได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว